การปรับระยะระหว่างคอกีต้าร์กับสาย
วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
การปรับ Saddle
วิธีการแก้ปัญหาเรื่องระยะความสูงด้วยวิธีการปรับ Saddle ด้วยวิธีกาง่ายๆ คือการ ขัด หรือฝน ซึ่งมีวิธีการดังต่อไปนี้
1 คลาย และถอดสายบริเวณ Bridge Pin ออกก่อน
2 ต้องทำเครื่องหมาย เพื่อกำหนดระดับของการขัด หรือฝน อาจจะใช้ดินสอ Mark ไว้ ด้วยวิธีขีดเส้นลากยาว ณ บริเวณใต้ฐานของ saddle, เริ่มขัด Saddle ให้ต่ำลงทีละนิด และควรทำเครื่องหมาย ที่ Saddle ไว้ด้วยว่ามุมใดของ Saddle คือสาย 1 (E string high)มุมใดของ Saddle คือสาย 6 (E string low)
3 ทำการขัด Saddle ต่ำมาถึงระยะที่เรา make ไว้แล้ว ขั้นตอนการขัดหรือฝน Saddle นั้น แนะนำให้เลือกใช้กระดาษทรายเบอร์ 1000 ซึ่งเป็นแบบละเอียด เพื่อความละเอียด และความสวยงามของงาน เวลาฝนลงบน Saddle ผิวจะเรียบสนิท
4 ใส่กลับตามเดิมแล้วลองเล่นดูระยะความสูงระหว่างสายกีต้าร์กับ Fret นั้น ไม่มีสูตรที่ตายตัว ที่สำคัญ ที่สุดคือ คุณชอบ และถนัด
การ Set Up กีต้าร์นั้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีการหมุน Truss rod หรือการปรับแต่งความสูงของ Saddle ด้วยวิธีการขัดหรือฝน Saddle ไม่มีวิธีการที่แน่นอน และขนาดความสูงที่มาตรฐานตายตัว แต่การปรับจะให้ดีก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่น เล่นได้ดีและเหมาะสมกับผู้เล่นแต่ละคน
การปรับแต่งระยะความสูงของสาย-เฟรต Acoustic guitar setup
มีใครเคยสงสัยไหมว่า ทำไมกีต้าร์ที่วางขายอยู่ตามท้องตลาด จึงมีระยะความสูงของสายกับเฟร็ต (Action) ไม่เท่ากัน ในบางยี่ห้อ บางรุ่น ก็ทำ Action มาสูงลิบลิ่ว แล้วทำไมผู้ผลิตหรือช่าง ไม่ทำ Action มาให้พอดี คำตอบนั้นคือ ไมมีใครทำ Action ใด Action หนึ่งได้ถูกใจทุกๆ คน บางคนชอบสูง บางคนชอบต่ำ บางคนชอบแบบกลางๆ ซึ่งวิธีการทั้งหมดจะต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการ "Set Up"
บทความนี้ขอเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ "Acoustic guitar setup" เรามาดูกันว่า เราจะกระจ่างในข้อสงสัยข้างต้นนี้ได้อย่างไร
ขั้นตอนของการ Set Up กีต้าร์ คือการตั้งคอกีต้าร์ "ด้วยวิธีการหมุน Truss rod และการปรับแต่งความสูงของ Saddle ด้วยวิธีการขัดหรือฝน Saddle
การตั้งคอกีต้าร์ "ด้วยวิธีการหมุน truss rod นั้นมีวิธีการตั้งคอให้ตรงนั้นคือ เราต้องทำการขันคอ หรือเรียกว่าการตั้ง/ปรับ Truss rod ก่อนอื่นมาดูตำแหน่งของ Truss rod กันก่อนซึ่งมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน
1 การวางตำแหน่งของการขัน Truss rod ไว้ด้านท้ายของคอกีต้าร์
2 การวางตำแหน่งของการขัน Truss rod ไว้ด้านปลายของคอกีต้าร์ แต่สำหรับการ Acoustic guitar setup โดยทั่วไปจะวางตำแหน่งของการขันหรือปรับ Truss rod ไว้ตรงด้านท้าย
แต่ก่อนที่จะทำการหมุน Truss rod เราต้องตรวจวัดความสูงของสายกิต้าร์ ณ ปัจจุบันกันก่อน โดยให้วัดจาก สาย 6 ในตำแหน่ง Fret 12 ดังภาพ
ระยะความสูงที่นิยมใช้กัน เพื่อใช้อ้างอิง
สาย 1 = ประมาณระหว่าง 2.00-3.00 mm
สาย 6 = ประมาณระหว่าง 2.50-2.80 mm
หลักในการหมุน Truss rod มีดังต่อไปนี้
1 การขัน หรือหมุน Truss rod นั้น เราจะใช้เหล็ก 6 เหลี่ยมเป็นอุปกรณ์ในการหมุนคอ โดยสิ่งที่ต้องระวังในการหมุน Truss rod เพื่อปรับคอคือ ต้องค่อยๆ หมุนที่ละ 1/4 ขยับที่ละนิด เพราะถ้าใจร้อน หมุนรอบมากเกินไป อาจจะทำให้ Truss rod ขาดได้
2 ไม่ต้องผ่อนหรือคลายสายกีต้าร์ในขณะที่ทำการหมุน Truss Rod ตั้งสายให้ตรงปรกติ เพราะว่าหากคลายสาย สภาพคอจะเปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้น ไม่ต้องผ่อนสายกีต้าร์ใดๆทั้งสิ้o
3 ลักษณะของ Truss rod ในแนวตรงหาก Truss rod ตรงมากเท่าไร คอกีต้าร์ก็จะยิ่งตรงมากเท่านั้น
4 ลักษณะของ Truss rod ที่โค้ง หรือแอ่นขึ้นหาก Truss rod ถูกหมุนจากซ้ายไปขวา คอกีต้าร์ก็จะตรึงขึ้น ผลคือ จะทำให้ "คอแอน" หรือ "คอโค้ง" ขึ้นผลของการปรับ Truss rod ในลักษณะนี้ จะทำให้การเล่นของนิ้วมือซ้ายง่ายขึ้น เนื่องจากคอแอนเข้ารับกับสาย โดยเฉพาะช่วงกลางคอ คือ Action หรือระยะความสูงของสาย=ต่ำ (Low)
5 ลักษณะของ Truss rod ที่งอ หรืออาการตกท้องช้างหาก Truss rod ถูกหมุนจากขวาไปซ้าย
คอกีตาร์จะหย่อนลง ผลของการปรับ Truss rod ในลักษณะนี้ จะทำให้การเล่นของนิ้วมือซ้ายยากขึ้น
โดยเฉพาะช่วงกลางคอเนื่องจากคอโค้งออกจากสาย เราอาจจะเรียกอาการนี่ว่า "ตกท้องช้าง" คือ Action หรือระยะความสูงของสาย=สูง (High)
6 การหมุน truss rod เพื่อปรับคอกีต้าร์นั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องจัดคอกีต้าร์ให้ตรงอย่าง 100%
คือ เราควรจะจัดคอกีต้าร์ให้มีความงอของคอ สักเล็กน้อย เพื่อให้มี Neck Relief หรือช่องว่างระหว่างสายกับ fret เพราะหากเรา Action ต่ำมาก แต่ไม่มีการปรับคอกีต้าร์ เพื่อหา Neck Relief ให้กับคอกีต้าร์ จะมีผลกระทบก็คือ กีต้าร์เกิดอาการ Fret Buzz หรือเสียงบัส (สายกระแทกเฟร็ต)
7 ถ้าคอตรงแบบ 100% แล้วปรับ Action ต่ำ จะส่งผลให้เกิดอาการสายตีเฟร็ตได้ง่าย หรืออาการ Fret Buzz เราจึงต้องปรับ Truss rod เพื่อจัด Neck Relief ให้เหมาะสม